|
|
"บ้านดิน" กระแสใหม่ "รักสุขภาพ" | |
ใครว่าบ้านดินเป็นแค่กระแสรักษ์โลกของอาสาสมัครกลุ่มคนที่รักธรรมชาติเท่านั้น หากเปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ จะพบว่านอกจากจะมีชมรมมากมายที่ชวนให้คนมาทำบ้านดินเป็นบ้านหลังที่ 2 แล้ว ยังมีการรับจ้างสร้างบ้านดินเป็นธุรกิจอีกด้วย
วันนี้บ้านดินสามารถยกระดับเป็นบ้านหลังที่ 2 ได้จริง จากกระบวนการผลิตที่มีการวิจัยและพัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจ์ บุญกาญจน์วนิชา สถาปนิกอาจารย์พิเศษสาขาบ้านดิน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าของบริษัท ลาแตร์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันในเมืองไทยมีการทำบ้านดินหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบก่อเป็นก้อนดินสี่เหลี่ยม และแบบที่มีฟางใส่ไว้ด้านใน และอีกหลายเทคนิคที่เป็นการทดลองผิดทดลองถูกต่อกันมากับแบบยุโรปที่มีการศึกษาเรื่องบ้านดินกันมานาน และมีการศึกษาอย่างจริงจังในมหาวิทยาลัย
ซึ่งสำหรับปัจจ์เป็นการนำเอาเทคนิคจากการไปเรียนสาขาหลังปริญญาโท ด้านบ้านดินที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเน้นไปเรียนรู้ส่วนประกอบของดิน เทคนิคในการทำเรื่อง บ้านดินแบบต่าง ๆ แล้วกลับมาต่อยอดตั้งบริษัทรับสร้างบ้านดินเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของบริษัท ลาแตร์ประกอบด้วย
"อิฐบล็อกดิน" ผลิตจากดินไม่มีการผสมสารเคมีเพิ่มซึ่งเป็นสาเหตุที่ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ อาทิ ภูมิแพ้ มะเร็ง ฯลฯ
"ผนังดินอัด" เป็นระบบโครงสร้างแบบผนังรับน้ำหนักโดยที่ไม่ต้องมีเสาใด ๆ ในการก่อสร้าง
จากที่เราเคยเข้าใจว่าบ้านดินจะมีแต่บ้าน ง่าย ๆ กลม ๆ ชั้นเดียว ปัจจุบันความแข็งแรงทนทานของก้อนดินสามารถที่จะขึ้นโครงสร้างแบบบ้าน 2 ชั้น และก่อสร้างแบบแข็งแรงเหมือนบ้านทั่ว ๆ ไปได้เลย
"โดยเทคนิคที่นำมาทำบ้านดินนั้น ในต่างประเทศทำกันมานานแล้ว และมีความแข็งแรงคงทนถาวรไม่น้อยไปกว่าบ้านปูน เพียงแต่เมื่อเรามาเมืองไทยจะต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของส่วนผสมของดินที่เหมาะกับประเทศไทยด้วย"
โดยในขั้นตอนแรกจะต้องศึกษาดูว่า โครงสร้างของดิน หิน ทรายของยุโรปและของแถบบ้านเรามีแตกต่างกันอย่างไร จากนั้นค่อยหาส่วนผสมที่เหมาะสม ซึ่งต้องเข้าใจเรื่องเทคนิคก่อนจึงจะได้ก้อนดินที่มีความแข็งแรงทนทาน
สำหรับผลิตภัณฑ์ล่าสุด "ดินฉาบสำเร็จรูป" เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการบรรจุอยู่ใน Material ConneXion"s ซึ่งนักออกแบบสามารถเข้าไปดูตัวอย่างสินค้าได้จากทุกสาขาทั่วโลก
"ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้เรามองว่ากลุ่มของคนที่อยากจะได้บ้านดินมีจำนวนมาก แต่ในกรุงเทพฯบ้านดินติดเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างไม่รองรับ เราจึงคิดทำผลิตภัณฑ์สำหรับฉาบขึ้นมา แทนการฉาบปูนและทาสี ดินฉาบสามารถฉาบและให้สีของดินได้เลยโดยเป็นดินแท้ ๆ ไม่มีส่วนผสมของอย่างอื่น"
ลาแตร์เปิดบริการมา 3 ปี มีลูกค้า 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักออกแบบให้กับโครงการ รีสอร์ต กับลูกค้าทั่วไป
อาทิ รีสอร์ตป่าตองบีช ภูเก็ต รีสอร์ตเกาะสมุย กระบี่ เกาะกูด โดยพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ก็คือไม่ได้ต้องการอยู่ถาวร แต่ต้องการที่จะปลีกตัวมาอยู่กับธรรมชาติเป็นครั้งคราว"
และกลุ่มลูกค้าคนที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 จากแต่ก่อนเข้าใจว่าเป็นบ้านของคนจนแต่จริง ๆ แล้วบ้านดินกลายเป็นกระแสของคนที่รักสุขภาพ โดยกลุ่มลูกค้าที่มาแรงในปัจจุบันและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสร้างบ้านก็คือผู้หญิง
"ผู้หญิงมีความสนใจเรื่องของสุขภาพ และจะเป็นคนที่คิดว่าอยากได้บ้านที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีงานวิจัยมากมายที่ระบุว่า การอยู่ในบ้านดินทำให้สุขภาพดี"
ส่วนอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นดินอัดตารางเมตรละ 2,500 บาท สำหรับ "ดินฉาบ" ตารางเมตรละ 160 บาท ส่วนการก่อสร้างบ้านเฉลี่ยคิดตารางเมตรละ 1.2-1.5 หมื่นบาท
สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการของ ลาแตร์ ก็ยังต้องตอบสนองกับการอนุรักษ์ด้วย เช่น การนำเอาดินที่ผลิตจากบ่อดินเก่าที่เลิกใช้ไปแล้วหรือยังใช้อยู่โดยไม่ได้ขุดบ่อใหม่ การนำแพ็กเกจจิ้งที่ไม่ใช้จากโรงงานผลิตถุงปูนมาใช้
ในส่วนของโปรดักต์ใหม่ เขาว่าตอนนี้ทางบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างทดสอบ ก็คือ หลังคาทำจากดิน และผนังสำเร็จรูป ซึ่งคาดว่าจะออกจำหน่ายภาย ในปีหน้าอย่างแน่นอน
| |
|