ทำอย่างไรให้เกิดสีเรา ได้รวบรวมวัสดุและเทคนิคในการเติมสีสันให้กับตัวบ้านภายนอกและฮาร์ดสเคปใน สวนมาฝากกัน บางวิธีคุณอาจคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่ภาพที่เราเลือกมาเป็นตัวอย่าง อาจกระตุ้นให้คุณเกิดไอเดียแล้วเลือกไปใช้ได้แบบไม่จำเจ นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อยากแนะนำเผื่อเป็นทางเลือก ให้คุณสนุกกับการเล่นกับสีมากขึ้น
1.สีทาผนังเป็น วิธีการใส่สีให้กับพื้นผิวที่เราคุ้นเคยกันดีและเป็นที่นิยมแพร่หลายที่สุด นอกจากจะทำเองได้ง่ายแล้ว ยังไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ให้ยุ่งยากด้วย ปัจจุบัน สีทาผนังได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติมากขึ้น ทั้งเพื่อให้ทนทานต่อสายลมแสงแดด และเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด นอกจากการใช้สีพื้นทาผนังแล้ว การสร้างลวดลายด้วยการวาดรูปหรือแม้แต่เทคนิคอย่างสเตนซิล ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มาก
2.กระจกสีกระจก สีในปัจจุบันนอกจากจะมีให้เลือกหลายเฉดสีแล้ว ยังเพิ่มคุณสมบัติเพื่อความปลอดภัยในการนำมาใช้ ทั้งกระจกนิรภัย และกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้เราเลือกใช้กระจกได้ในทุกๆส่วนของบ้าน แม้แต่การใช้กระจกตกแต่งในสวน เช่น การทำเป็นผนังน้ำตก นอกจากกระจกสี อะคริลิกใสหลากสีก็นำมาใช้ทดแทนได้ในบางกรณี เนื่องจากมีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่า เพราะความเหนียวของเนื้อวัสดุ อีกทั้งยังมีสีให้เลือกมากมายไม่แพ้กัน
3.กระเบื้องและโมเสกสีการ ใช้กระเบื้องปกปิดพื้นผิวไม่ว่าจะที่พื้นหรือผนังเป็นที่นิยมไม่แพ้การทาสี สมัยก่อนกระเบื้องอาจจำกัดอยู่แค่เซรามิคหรือดินเผา แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้วันนี้ เรามีกระเบื้องที่มีรูปแบบหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น กระเบื้องหรือโมเสกแก้ว กระเบื้องพื้นผิวโลหะ หรือกระเบื้องที่มีผิวสัมผัสเหมือนหิน ข้อดีของการปูกระเบื้องคือ เราสามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่าย ทั้งยังสามารถใส่ลูกเล่นได้ตามจินตนาการ
4.ผนังฉาบปูนผสมสีฝุ่นผนัง บ้านสีสดที่มีผิวสัมผัสไม่เรียบหรือ Stucco ซึ่งพบมากในประเทศอิตาลีและสเปน เราสามารถเลียนแบบด้วยวิธีง่ายๆ โดยใช้ปูนฉาบยิปซัมฉาบผนังแทนปูนซีเมนต์ และต้องฉาบหลายครั้ง ครั้งละบางๆ แล้วผสมสีฝุ่นกับปูนในการฉาบครั้งสุดท้าย สิ่งสำคัญที่ทำให้ผนังดูสวยก็คือ ฝีเกรียงของช่างฉาบ ต้องให้มีจังหวะไม่เท่ากัน เหมือนไม่ตั้งใจ เพื่อให้ผนังมีสีเหลือบอ่อน-เข้ม
5.ผงคอนกรีตสีทาง เลือกใหม่สำหรับการเพิ่มสีสันให้พื้นผิวคอนกรีต คือผงคอนกรีตที่ผสมสีสำเร็จรูป เราสามารถเลือกใช้งานได้กับการฉาบผนัง หรือแม้แต่ส่วนที่เป็นโครงสร้างอย่างคาน เสา หรือพื้น และในจุดที่ต้องรองรับการใช้งานหนัก มีสีให้เลือกมากพอสมควร แต่อาจไม่สามารถให้สีที่สดแจ่มได้มากเท่าการทาสี ข้อดีคือ สีจะไม่ซีดจางไปตามกาลเวลา และเมื่อมีรอยขีดข่วนหรือการกะเทาะของผิวคอนกรีต ก็ยังคงเห็นเป็นสีสวยเช่นเดิม
6.กรดย้อมผิวคอนกรีตการ ใช้กรดย้อมผิวคอนกรีตอาจมีขั้นตอนยุ่งยากกว่าการทาสี เพราะขั้นตอนไม่จบอยู่แค่การทาสีลงบนพื้นผิว แต่ต้องรอให้สีแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นต้องเคลือบด้วยอะคริลิกสูตรน้ำหรือน้ำยาซิลิโคนอีกชั้นหนึ่ง แต่ผิวคอนกรีตที่ถูกย้อมสีจะให้สีสดทนทานตลอดอายุการใช้งาน และสีที่เกิดขึ้นจะไม่เรียบเสมอกัน ให้เสน่ห์ที่ดูเหมือนผ่านกาลเวลา ซึ่งการทาสีธรรมดาอาจให้ไม่ได้
7.โลหะทำสีปัจจุบัน มีการนำวัสดุจำพวกโลหะมาใช้ทั้งในส่วนที่เป็นโครงสร้างของบ้าน และเป็นองค์ประกอบในการจัดสวนเพิ่มมากขึ้น เช่น ผนังบ้านกรุแผ่นอะลูมิเนียม (Aluminium Cladding) วงกบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม หรือกระบะต้นไม้ทำด้วยแผ่นเหล็ก โลหะเหล่านี้ สามารถเคลือบสีได้สวยสดและหลากหลาย ทั้งยังเป็นการเพิ่มคุณสมบัติทนรอยขีดข่วนให้ผิวโลหะด้วย
8.หลังคาหลากสีหลังคา บ้านเป็นส่วนของอาคารที่กินพื้นที่กว้างใหญ่พอสมควร จึงส่งผลกระทบต่ออาคารในเรื่องของสีไม่น้อย การกำหนดสีของตัวบ้านจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงวัสดุมุงหลังคาด้วย ปัจจุบันมีวัสดุมุงหลังคาใหม่ๆ เช่น แผ่นกระเบื้องหลังคาโปร่งแสงและแผ่นพอลิคาร์บอเนตสีต่างๆ รวมถึงวัสดุมุงหลังคาประเภทคอนกรีตก็มีสีสันให้เลือกมากขึ้นด้วย ไม่เพียงแค่นั้น วัสดุมุงหลังคาแบบดั้งเดิม อย่างกระเบื้องดินขอ หรือกระเบื้องหางว่าวที่เคลือบสีสวยก็มีไม่น้อย
สีบอกอารมณ์สวนนอก จากสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าในสวนจะทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นแล้ว สีสันต่างๆ ที่นำมาใช้กับฮาร์ดสเคปก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สร้างอารมณ์ให้แตกต่างกันออกไป การจับคู่สีกับสีเขียวจะบ่งบอกความรู้สึกอย่างไรบ้าง ดูตัวอย่างได้ดังนี้
1. สนุกสนาน การใช้สีสดใสกับวัสดุในสวน เช่น สีชมพู แดง เหลือง ส้ม น้ำเงิน จะมีแรงกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่าเริง ตื่นเต้น กระตือรือร้นที่จะเข้าไปใช้งานในสวน โดยเฉพาะกิจกรรมสนุก ๆ เช่น จัดปาร์ตี้ หรือเลี้ยงฉลอง
2. เคร่งขรึม สีในโทน ดำ เทา ขาว ให้ความรู้สึกมั่นคง เรียบง่าย น่าเกรงขาม สีลักษณะนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกปลอดภัย และสงบนิ่งเมื่ออยู่ในสวน
3. ผ่อนคลาย การนำสีที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น สีของใบไม้ เปลือกไม้ พื้นดิน และท้องน้ำ มาใช้กับองค์ประกอบต่าง ๆในสวน นอกจากจะสร้างความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองแล้ว กลิ่นอายของความเป็นพื้นถิ่นยังช่วยย้อนให้กลับไปนึกถึงบรรยากาศแบบชนบทได้ อีกด้วย
สีกับสไตล์บ้านแต่ ละสีของบ้านแต่ละสไตล์ ล้วนมีที่มาต่างกันไป ก่อนจะเลือกสีมาใช้กับบ้าน เราควรทำความเข้าใจถึงสไตล์ต่างๆและสีที่เหมาะกับสไตล์นั้นๆ เพื่อให้สีกับสไตล์ไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
1. สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)การ เล่นสีกับบ้านสไตล์โมเดิร์น มักเลือกใช้สีปฐมภูมิหรือ Primary Color คือสีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน เนื่องจากสถาปัตยกรรมในช่วงที่เข้าสู่ยุคโมเดิร์น นอกจากสีขาว-เทา-ดำ ที่นำมาใช้เพื่อแสดงถึงการตัดทอนรายละเอียดและแสดงเนื้อแท้ของวัสดุแล้ว ก็จะมีเพียงสีแดง-เหลือง-น้ำเงินเท่านั้นที่นำมาแต่งแต้มในจุดที่ต้องการ เน้น ทั้งสามสีจึงเสมือนเป็นตัวแทนของยุค คุณอาจเลือกใช้สีในส่วนของผนังบ้านด้านใดด้านหนึ่ง กรอบวงกบ เสาที่ไม่ติดผนัง หรือแม้แต่ทาสีผนังเป็นแถบ ควบคู่ไปกับการโชว์วัสดุ เช่น เหล็ก สเตนเลสสตีล หรือไม้ เพื่อให้ได้อารมณ์ของบ้านโมเดิร์นที่ดูร่วมสมัย
2.สไตล์โมร็อกโก (Moroccan Style)
ใคร ชอบสีสันและมนตราของอาหรับ คงต้องหลงใหลบ้านสไตล์โมร็อกโก นอกจากสีของผนังบ้านที่โดดเด่นแล้ว สไตล์โมร็อกโกยังนิยมใช้กระเบื้องลวดลายประดับตกแต่งพื้นผิวส่วนต่างๆ เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นึกถึงเสมอเมื่อพูดถึงบ้านสไตล์นี้ สีของตัวบ้านที่บ่งบอกสไตล์ได้ชัดคือสีส้มอิฐ และสีเหลือง คล้ายกับสีของบ้านดิน มีลักษณะคล้ายผนังบ้านแบบ Stucco ในประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนลวดลายเรขาคณิตบนกระเบื้องได้รับอิทธิพลจากประเทศอาหรับ ขณะเดียวกันก็มีลักษณะร่วมบางประการที่คล้ายคลึงกับสไตล์อินเดีย ส่วนการใช้สีสันสดใสได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์แอฟริกัน เมื่อต้องการเล่นสีเพื่อให้ได้บ้านสไตล์นี้ รูปแบบของตัวบ้านจึงต้องสอดคล้องกันไป เช่น บ้านรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่อง มีคอร์ตกลางบ้าน หรือมีซุ้มโค้ง
3.สไตล์แคริบเบียน (Caribbean Style)สีสัน สดใสของที่อยู่อาศัยบนหมู่เกาะแคริบเบียน ไม่ว่าจะเป็นประเทศจาเมกา คิวบา คอสตาริกา เปอร์โตริโก ฯลฯ ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศริมทะเล ที่มีเสียงเพลง เครื่องเคาะจังหวะ และท่วงท่าลีลาการเต้นรำ บ้านในแถบนี้ นิยมใช้สีสดตัดกันรุนแรง เช่น ผนังสีน้ำเงิน หลังคาสีแดง วงกบสีส้ม สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ได้รับอิทธิพลจากสีสันของพืชในเขตร้อนชื้น ใครที่ชอบสีสดเช่นนี้ต้องมีความกล้าเป็นทุนในการเลือกใช้สีในตำแหน่งที่ เหมาะสม หากไม่มั่นใจ คุณอาจเลือกใช้สีสดแค่บางจุดคู่ไปกับสีกลางๆอย่างขาว-ดำ-น้ำตาล แต่อาศัยการจัดสวนด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนสีจัดช่วยเสริมสร้างบรรยากาศแบบ แคริบเบียนแทน หรือตกแต่งเฉพาะจุด เช่น วาดลวดลายบนวงกบหน้าต่างให้สีตัดกับผนัง
เรื่อง : "ศุภอริญ", "วรัปศร"
เรียบเรียง : "ภัทรสิริ"
ภาพ : แฟ้มภาพบ้านและสวน