รักษาเนื้อไม้

1. ปกป้องไม้จากการทำลายของแสงแดดและรังสี UV

2. ป้องกันน้ำซึมเข้าทำลายเนื้อไม้ แต่ไม้ยังคงคายความชื้น (ไม้หายใจได้) หมดปัญหาสีลอกแตกพอง

3. ป้องกันเชื้อรา โดยไม่ต้องทาสีรองพื้นกันเชื้อราใด ๆ สามารถใช้สีย้อมไม้ทาเป็นรองพื้นและทับหน้าได้เลย

ใหความสวยงาม

1. โปร่งแสงโชว์ลายไม้ให้เห็นเด่นชัดตามธรรมชาติ

2. ให้สีสันแก่ไม้ ให้สวยงามตามธรรมชาติได้ยาวนาน

3. เนื้อสีซึมลึกทำให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ชนิดเงา (Gloss) 3 สี และชนิดใส,ชนิดกึ่งเงา (Stain Finish) 5 สี และชนิดใส

ขนาด 1 ลิตร ได้พื้นที่ = 20 ตารางเมตร ต่อ 1 เที่ยว

ขนาด 5 ลิตร ได้พื้นที่ = 100 ตารางเมตร ต่อ 1 เที่ยว

แห้งผิว 1-2 ชั่วโมง

แห้งทาทับ 3-4 ชั่วโมง

แห้งใช้งาน 2-3 วัน

ไม่ต้องผสม สามารถทาได้เลย (ยกเว้นทาในบริเวณที่อากาศร้อนจัดควรผสมด้วยเบเยอร์ทินเนอร์ M-1199 ประมาณ 5-10%)

การเตรียมพื้นผิว

1. ไม้เก่า ถ้าเป็นไม้ที่ทาสีเคลือบแข็งมาก่อน ให้ลอกสีเก่าออกโดยขัดกระดาษทราย หรือน้ำยาลอกสี จนถึงเนื้อไม้เดิม แล้วทำความสะอาดผิวไม้ให้สะอาดโดยไม่ทิ้งคราบน้ำยาลอกสีไว้ มิฉะนั้นสีย้อมไม้จะไม่สามารถซึมเข้าเนื้อไม้ได้ และสีจะแตกลอกได้ ถ้าเป็นไม้ที่เคยทาสีย้อมไม้มาก่อน ให้ทำความสะอาดผิวไม้ด้วย ทินเนอร์ M-1199 ก่อน จนสะอาด ทิ้งให้แห้งสนิท

2. ไม้ใหม่ ถ้ามียางไม้ใช้ ทินเนอร์ M-1199 เช็ดทำความสะอาด ปล่อยไม้ให้แห้งแล้วจึงขัดไม้ตามลายไม้ให้เรียบ ถ้าไม้ไม่มียางทิ้งไม้ให้แห้งสนิทขัดไม้ให้เรียบตามลายไม้และทำความสะอาดให้ปราศจากคราบไขมันและฝุ่นละออง

การทาสีย้อมไม้ ดีไลท์

1. คนสีให้ทั่วทั้งก่อนทาและหมั่นคนระหว่างการทาเพื่อให้เม็ดสีกระจายตัวสม่ำเสมอ

2. ควรทาตามลายไม้ทีละแผ่น และไม่ควรทาขวางแนวเสี้ยนเพื่อลดรอยต่อของแปรง

3. ไม่ควรทาขณะที่มีความชื้นสูงผิดปกติ เช่น ก่อน/หลัง ฝนตกใหม่ ๆ

4. ทาแต่ละเที่ยวให้ทั่ว ทิ้งให้แห้งสนิทอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง ก่อนทาเที่ยวต่อไป

5. ควรทาบนทุกๆ ด้านของไม้ให้ทั่วสัก 1 เที่ยว ก่อนนำไปประกอบเพื่อการปกป้องสูงสุด และทาเที่ยวต่อไปเมื่อนำไม้ไปประกอบแล้ว

6. ทาภายในอย่างน้อย 2 เที่ยว ทาภายนอกให้ทาไม่เกิน 3 เที่ยว เพื่อให้ไม้คายความชื้นได้ดีที่สุด